วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Day 2

วันนี้ บรรยากาศก่อนมาเล่น ค่อนข้างแย่ เพราะ นอกจากนอนน้อยกว่าปกติแล้ว (ประมาณ 6 ชั่วโมง ซึ่ง ควรจะนอน ให้ได้ ประมาณ 8 ชม.) ทำให้ ง่วงทั้งวัน ตลอดการทำงาน และ ยังเจอเรื่องกดดัน จากที่ทำงานอีก ทำให้ รู้สึกเหนื่อยใจ แต่เมื่อตัดสินใจมาแล้ว ก็ต้องมาให้ได้ ความเหนื่อยและหิว เป็นอุปสรรค สำหรับ ช่วงนี้จริงๆ (แต่ แอบงีบระหว่างนั่งรถ มาถึงฟิตเนส นิดนึง) หลังจากที่มาถึง ก็ไม่รีรอที่จะเริ่มต้น การออกกำลังกายสำหรับวันนี้
เริ่มต้นที่ จักรยาน อีกตามเคย เพราะลู่วิ่ง ไม่ว่างอีกล่ะ เริ่มต้น วอร์มร่างการนิดนึง ที่ 10 นาที เพื่อให้ร่างกายได้คุ้นเคย
หลังจากนั้น ก็ต่อที่ เล่น หน้าท้อง โดย sit up เซ็ตละ 10 ครั้ง จำนวน 3 เซ็ต เอิ่ม! มันหนักหน่วงมาก เพิ่งรู้ว่าตัวเราหนักมาก พอเข้าสู่ เซ็ตที่สอง เริ่มไม่ไหว แต่เราต้องสู้

หลังจากพัก 2 นาที ก็ต่อที่ เล่นขา ทั้งข้างหน้าขา และข้างหลังขา อย่างละ 3 เซ็ต 

แล้วกลับมาวิ่ง 15 นาที เบิร์นไปแค่ 523 Cal.

หลังจากเสร็จแล้ว รู้สึกได้เลยว่า เหนื่อยะหิวมาก ก็เลยกิน ชุดใหญ่ ไป แต่ ก็ มีแต่ สเต็กไก่ เท่านั้นนะครับ 


วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556

My First Day

วันที่ 2 ธันวา 2013 - สัปดาห์ที่ 1 - วันที่ 1 

วันนี้ ตัดสินใจเริ่มต้นกับการออกกำลังอย่างจิงจังเสียที ความรู้สึกแรกที่ออกกำลังในฟิตเนส มันรู้สึกว้าเหว่ เอาตรงๆ คือ เราไม่มั่นใจเลย ไม่เหมือน ตอนพรีเซนต์งานเลย ความมั่นใจหายไปหมด ตอนที่เริ่มที่ลู่วิ่ง แล้ว เครื่องใช้ไม่ได้ นี่ เริ่มอาย แต่ยังไง the show must go on หันหลับกลับมา เริ่มที่ จักรยานก่อน ก็แล้วกัน เราไม่รู้อะไรมากหรอก ข้อมูลจากแหล่งความรู้ ออนไลน์ บล็อคไทย บล็อคเทศ ต่างให้ความรู้ต่างกันไป ตอนนี้เลยเริ่มที่ เล่นอะไร ก็ได้ที่ทำให้รู้สึกสบายใจ ให้มากที่สุด ทำให้ พรุ่งนี้อยากมาเล่นอีก
ด้วยปมด้อย หลายอย่าง ทั้ง ความไม่คุ้นเคยและความไม่เข้าใจในการออกกำลังกายในฟิตเนส ตั้งแต่เด็ก ถ้าเรื่องวิทยาศาสตร์ การคำนวนต่างๆ ผมจะอยู่หน้าห้อง แต่ถ้าเรื่องกีฬาเนี่ย มันทำไม่ได้ ผมเ
ลยอายและไม่กล้ามา ตลอด แต่หลังจากที่ออกกำลังไป มันก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ที่เราสังเกตุได้คือ สมาธิ และผมเริ่มมีความสุขกับการปั่นจักรยานไฟฟ้า มันรู้สึกดีขึึ้น เพราะ ทุกคน เล่นของตนเอง และ ใส่ใจตนเอง ผู้คนรอบๆตัวผมรักสุขภาพของตัวเขาเอง เขารักรูปร่างของเขา นี่คือสิ่งที่จุดประกายให้ผมในวันนี้แหละครับ

วันนี้ วันแรก ผมรู้สึกดีที่ได้ชนะ ตัวเองในการออกกำลัง และผมจะทำให้มัน สำเร็จให้จงได้ ถึงแม้ เวลา 1 ชม. ที่ผม ออกกำลังกายไป มันไม่ได้ผลลัพย์ทางร่างกายที่ชัดเจนมากนัก แต่วันนี้ ถือว่าผ่านด้านจิตใจ และผมมั่นใจว่าพรุ่งนี้ผมจะกลับมาอีก

กิจกรรมวันนี้ - วิ่ง 15 นาที ปั่นจักรยาน 45 นาที  กี่แคลลอรี่ไม่รู้ :-p 

Day 1 of 25  Result: Happy to exercise and still need more self-confident on fitness training. 

บทนำ

เกริ่นนำ


สวัสดีครับ ต้องขอกล่าวแนะนำตัวเองสักนิดนึง ผมชื่อ แมกไม้ โดยปกติเพื่อนจะเรียก มม. (ออกเสียงว่า มอ มอ) ปัจจุบัน ทำงานในสายงาน ไอที พัฒนาระบบ ซึ่ง เรียกกันง่ายๆ ว่า โปรแกรมเมอร์ หรือ ชอบให้เรียกว่า Software Developer มากกว่า เพราะว่าทำมากกว่าหนึ่งอย่างครับ แหะๆ

ความตั้งใจในการสร้างบล๊อคนี้ คือบันทึกความทรงจำในการออกกำลังกายต่างๆ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากผู้รู้ต่างๆ โดย มม. จะบันทึกรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายทุกอย่าง 

เหตุใดถึงต้องมาเขียนบล๊อค 

ต้องขอเกริ่นก่อนว่า ผมเป็นคนนึงที่ไม่ชอบออกกำลังกายเลย ตั้งแต่เด็กแล้ว เลยทำให้การออกกำลังทุกชนิด เป็นข้ออ้าง แต่ผมก็ชอบอยู่อย่างนึงคือการเต้น เพราะมันคือการระบายอย่างนึง แต่ผมก็ไม่ได้มีโอกาสในการเต้นมากนัก เพราะห่วงเรียน ห่วงงาน มากกว่า ซึ่ง มันเป็นอุปนิสัยที่แย่หน่อย ถ้าหากใครรู้ว่า ชาวไอทีอย่างเราๆ มักจะได้ขยับร่างกายน้อยมาก ซึ่งยิ่งทำให้ร่างกายเราสะสม ทั้งไขมัน และความขี้เกียจ ไว้ในตัวมากมาย ไอ้ความขี้เกียจเนี่ย มันกำจัดยากมาก (สำหรับผม) 
อีกอย่างนึงเรื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผม เริ่มที่อยากเขียนบล๊อคและยังได้แชร์ประสบการณ์ การออกกำลัง และพร้อมจะเริ่ม หันกลับมาดูแลตัวเอง คือ ผมเป็นผู้ป่วย เบาหวาน ชนิดที่ หนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ ผมทราบและรักษา มาตั้งแต่ อายุ สิบห้า ปีมันเป็นจุดหักแหหลายอย่าง ที่กว่าจะยอมรับกับการเป็นโรคประจำตัวเรื้อรัง ผมยอมรับว่าโรคนี้ มันดูไม่น่ากลัวเท่ามะเร็งหรือ โรคหัวใจ แต่ถ้าเราไม่รักษาดูแลตัวเอง โรคนี้ ก็จะเรียกหาโรคเรื้อรังอื่นๆ ต่อมาอีกมากมาย  พอเวลาผ่านมา เกือบ แปดปี ซึ่งนานมากกว่าผมจะ ผ่านมันมาได้ (จะเล่าเรื่องราว ใน บล๊อคต่อไป นะครับ) พอวันนี้ ผมรู้สึกรักตัวเองมากขึ้นซึ่งการออกกำลังกายคือเป้าหมายต่อไป ที่ผมจะทำให้สำเร็จ และจึงอยากแชร์ ประสบการณ์การรักษาตัวเอง ที่ได้จากหลายๆคน ด้วยครับ 

เป้าหมายในการออกกำลัง

หลายคนมีเป้าหมายในการออกกำลังไม่ต่างกันมาก ถ้าไม่เพื่อทำให้เราดูดีขึ้น ก็เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น การออกกำลังของผมเป้าหมายคือ การทำให้การออกกำลังเป็นงานอดิเรกที่ทำทุกวัน และเป็นชีวิตของผม ซึ่งทำให้มีความสุข นั่นคือเป้าหมายหลักที่ผมปรารถนา แต่เรื่องสุขภาพที่ดีขึ้น รวมถึง การรูปร่างที่ดูดีขึ้นนั้น เป็นเพียงผลพลอยได้ สำหรับผม เพราะสำหรับผม สุขภาพที่ดี ไม่ได้ทำเพียงแค่ออกกำลังอย่างเดียว เพราะมันรวมไปถึงการใช้ชีวิตทุกๆวันมากกว่าครับ 

เอ๊ะ! แล้วผมจะเริ่มอย่างไรดี? 

อันนี้เป็นคำถามที่ทำให้ผมต้องวิ่งเต้นหาข้อมูลจาก บุคคลผู้รู้ อาจารย์กูเกิล และอีกหลายแหล่ง ซึ่งก็ด้วยที่ถามเยอะเกินไป ผมเลยค่อนข้างเขว เหมือนกัน ผมเลยวิเคราะห์จากความต้องการและสรุปผลว่า ผมจะเริ่มต้นด้วย การไปออกกำลังกายด้วยความรู้สึกสนุกและจะทำให้การออกกำลังเป็นเรื่องสนุกให้มากที่สุด โดยใช้ความรู้เรื่องพฤติกรรมเข้าช่วยด้วย โดยที่จะต้องทำติดต่อกันเป็นเวลา 25 วัน ให้เกิดความเคยชิน (ข้อคิดนี้ได้มาจาก กาละแมร์ พัชรศรี - พิธีกรสาว ชื่อดัง ในประเทศไทย - จริงๆ ได้มาจากดีเจมดดำไปขอทริคนี้มาจากนาง แล้วมดดำก็มาเล่าในรายการวิทยุ) ซึ่งผมจะใช้วิธีการศึกษาด้านพฤติกรรมศาสตร์เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และคุ้นเคยเพื่อปรับลักษณะพฤติกรรมของผม และรางวัลที่ได้คือ รูปร่าง ที่จะได้รับกลับมา ถึงแม้ต่อจากนี้ 25 วันผมจะไม่ได้รูปร่างดีแบบนายแบบ หรือพุงยังเป็นห่วงยางอยู่ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมทำสำเร็จคือ ผมชนะใจตัวเองในการปรับเปลี่ยนการพฤติกรรมตัวเองให้ทำในสิ่งที่ดีขึ้น

สุดท้ายนี้
บทนำนี้ ผมเขียนขึ้นมาก่อนที่จะเห็นผลลัพย์ที่จะเกิดขึ้นหลังจาก 25 วันหลังจากนี้ ผมหวังว่าบล๊อคนี้จะช่วยให้อีกหลายๆคน ได้มีความรู้สึกดีในการออกกำลังกาย หรือ การจะเริ่มทำอะไรที่ท้าทาย สำหรับตัวเองแล้วไม่กล้าเริ่มครับ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบล๊อคนี้นะครับ หากมีอะไรผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ หรือหากมีอะไรติชม สามารถคอมเม้นท์ข้างล่างได้เลยนะครับ